เสียกันไปเท่าไรแล้วกับ ‘ค่ากาแฟ’
เสียกันไปเท่าไรแล้วกับ ‘ค่ากาแฟ’
.
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบในการดื่มกาแฟ และจะต้องหาดื่มให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 แก้ว นั่นหมายความว่า...
.
สมมติว่า ราคาต่อแก้วอยู่ที่ 60 บาท
- คุณจะต้องเสียเงินค่ากาแฟอย่างน้อยเดือนละ 1,800 บาท
- ใน 1 ปี คุณต้องจ่ายค่ากาแฟราว ๆ อย่างน้อย 20,000 บาท
- แปลว่า ใน 5-10 ปี หากคุณยังคงซื้อกาแฟดื่มอย่างน้อยวันละ 1 แก้ว คุณต้องเตรียมเงินค่ากาแฟไว้อย่างน้อย 100,000-200,000 บาท ซึ่งนี่ยังไม่ได้พูดถึงค่ากาแฟที่จะพุ่งสูงเรื่อย ๆ ตามเงินเฟ้ออีก
- จริง ๆ ยุคนี้ ราคากาแฟดี ๆ ในร้านบรรยากาศที่เราชอบ 60 บาทแทบจะหาไม่ได้ง่าย ๆ
.
ผันตัวมาเป็น Home barista ≠ ลดค่ากาแฟ
- เมล็ดกาแฟคั่วพร้อมชงมีราคาต่อเสริฟตั้งแต่ 10 บาทและสูงไปเรื่อย ๆ เป็น หลักร้อย หลักพันต่อเสริฟแล้วแต่ต้นทุนของเมล็ดกาแฟ (เรื่องนี้สายชงจะรู้กันดี)
- การหันมาชงดื่มเองที่บ้าน นอกจากคุณจะต้องเสียค่าครูในการหาสไตล์การชงที่ตัวเราเองชอบแล้ว คุณยังต้องหาซื้ออุปกรณ์การชงที่ตอบโจทย์กับชีวิตประจำวันของคุณอีกด้วย
- โดยปกติ การมีอุปกรณ์ชงที่บ้านแล้วไม่ได้ลดค่ากาแฟโดยตรงแต่อย่างใด คุณเสี่ยงที่จะโดนป้ายยาเมล็ดกาแฟดี ๆ อยู่ตลอดเวลาจากการหาโรงคั่วที่นำเสนอเมล็ดกาแฟในรูปแบบที่ต่างกัน จนบางครั้งคุณก็จะซื้อกาแฟมาเยอะจนชงดื่มไม่ทันก็เกิดขึ้นง่ายเช่นกัน
.
ถ้าจะบอกให้เลิก/ลดดื่มกาแฟ เกรงว่า คอกาแฟคงไม่ชอบใจเป็นแน่...
.
‘กาแฟ’ ถือเป็นเครื่องดื่มที่ยังคงมีการพัฒนาและมีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา นั่นแปลว่าราคาของกาแฟจะวิ่งขึ้นลงอยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบแก้วพร้อมดื่มหรือเป็นเมล็ดคั่วพร้อมชง เพราะด้วยความหลากหลายทางปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ของแต่ละร้านและผู้จำหน่ายนั้นต่างกัน
.
มองการลงทุน ‘ค่ากาแฟ’ เป็นการแลกมาซึ่ง ‘ความสุข’
.
ไม่ว่าจะเป็นนักดื่มที่คอยตามหาร้านกาแฟดี ๆ และเมนูกาแฟใหม่ ๆ หรือจะเป็นนักชงที่บ้าน การดื่มกาแฟทุกแก้วเป็นเหมือนกับการทดลองที่เราพยายามจะหากลิ่นและรสชาติที่ถูกจริตเรามากที่สุด
.
‘ความสุข’ ของคนดื่มกาแฟ ไม่ได้อยู่แค่การดื่มเครื่องดื่มแก้วหนึ่งเพื่อให้ได้คาเฟอีนแล้วจบไป แต่มันเป็นเหมือนการเสพผลงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่ทำให้เราเคลิ้มไปกับเรื่องราวต่าง ๆ นานาของกาแฟก่อนที่จะมาอยู่ในแก้ว แล้วปล่อยให้กาแฟสื่อสารกับเราผ่านกลิ่นที่ลอยเตะจมูกและรสชาติที่เราสัมผัสได้ในช่องปาก
.
สุดท้าย อยู่ที่เราเองว่าจะเลือกมองกาแฟจากมุมมองไหน และเราให้ค่ากับกาแฟแก้วนั้นมากน้อยเพียงใด ความสุขทางใจของคนเรามีไม่เท่ากัน แต่ละคนก็เลือกที่จะลงทุนกับสิ่ง ๆ หนึ่ง เพื่อแลกกับความสุขที่เราคาดหวังไว้ เพราะหากกาแฟแก้วนั้นมีมูลค่าและมีความหมายต่อเรามากพอ การจ่ายเงิน ไม่ว่าจะสูงเท่าใด มันก็ไม่ได้มีผลมากเท่าไรหากเราให้ค่ามันไว้สูงมากพอ
.
เที่ยงแล้ว ขอตัวไปแงะกระปุกมาจ่ายค่ากาแฟก่อนลุยงานบ่ายต่อดีกว่า
.
เพราะกาแฟ ไม่ใช่แค่กาแฟ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น